ทัวร์จีน สายไหม 3 มณฑล: กานซู่-ชิงไห่-มองโกเลีย

ทัวร์จีน สายไหม 3 มณฑล: กานซู่-ชิงไห่-มองโกเลีย

รหัสทัวร์
152-80098
วันที่เดินทาง
ก.ย.67 - ต.ค.67
ช่วงเวลา
12 วัน 11 คืน
เดินทางโดย
Sichuan Airlines (3U) Sichuan Airlines (3U)

ไฮไลท์

  • หลันโจว-ปิ่งหลิงซื่อ-ล่องแม่น้ำเหลือง-ป่าหินหวงเหอ-เซี่ยเหอ-Labrang Monastery
  • ภูเขาสายรุ้ง-เจียยวี่กวาน-กำแพงเมืองจีนด่านสุดท้ายCheck-in The Son of the Earth-ตุนหวง-ขี่อูฐหมิงซาซาน
  • สระน้ำพระจันทร์เสี้ยว -โม่เกาคู-ตลาดซาโจว-พิพิธภัณฑ์ตุนหวง-ด่านประตูหยก-ตานเสีย นครแห่งสายลม ซากกำแพงเมืองจีนราชวงศ์ฮั่น

แผนการเดินทาง

15.00 น.              พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาเตอร์สายการเสฉวนแอร์ไลท์ (จอดส่งผู้เดินทางได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูหมายเลข 7)

18.10 น.              นำท่านเหิรฟ้าสู่นครเฉิงตู ด้วยเที่ยวบินที่ 3U 3936 (สายการบิน Full Service บริการอาหาร และ เครื่องดื่มบนเครื่อง)

21.55 น.              ถึงสนามบินเทียนฟู่ นครเฉิงตู เมืองเอกมณฑลเสฉวน มณฑลที่มีภูมิประเทศรายรอบไปด้วยเทือกเขา และมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีฤดูร้อนที่อบอุ่น ฤดูหนาวที่ไม่หนาวนักและมีปริมาณความชื้นสูง มีพื้นที่ประมาณ 567,000 ตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ได้แก่ ชาวยี่ ทิเบต เมี้ยว หุย เชียง นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (ประกาศคนไทยฟรีวีซ่า / เวลาจีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)

ที่พักที่สายการบินจัดให้ Tianfu International Hotel หรือเทียบเท่า 4 ดาว

เที่ยวบินถึงดึก พักผ่อนนานหน่อย

08.00 น.              รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วเดินทางไปสนามบิน

12.00 น.              โดยเที่ยวบินที่ 3U6337 นำท่านเดินทางสู่นครหลันโจว

13.45 น.              ถึงนครหลันโจว 兰州 Lanzhou เมืองเอกของมณฑลกานซู่ (甘肃省,甘粛省) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ตอนบนของแม่น้ำฮวงโห (แม่น้ำเหลือง) แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 14 เมืองหรือจังหวัด (市) 4 เทศมณฑลระดับเมือง (市) 58 เทศมณฑล (县) 17 เขต (区) และ 7 เ ขตปกครองตนเอง (自治县)  14 เมืองหรือจังหวัด ได้แก่ เมืองหลันโจว兰州市, เมืองเจียยู่กวน 嘉峪关市, เมืองไป๋หยิน 白银市, เมืองเทียนสุ่ย 天水市, เมืองอู่เวย 武威市, เมืองจี่วฉวน 酒泉市, เมืองจางเย่ 张掖市, เมืองชิ่งเหยียน 庆阳市, เมืองผิงเหลียง 平凉市, เมืองติ้งซี 定西市, เมืองหล่งหนาน 陇南市, เขตปกครองตนเองชนชาติหุย หลินเซี่ย 临夏回族自治州, เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต กานหนาน 甘南藏族自治州

14.00 น.              รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในสนามบิน

ชมตัวเมืองหลันโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่ มณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นจุดผ่านของเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ เป็นเมืองอุตสาหกรรมปิโตรเลี่ยมและเครื่องจักรกลหนัก ในสมัยโบราณเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกซีหยง มีพื้นที่ 390,000 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน ตอนบนมีเขตแดนติดต่อกับมองโกเลียใน

นำชมอุทยานเขาเจดีย์ขาว Baitashan Park白塔山公园 หรือ วัดไป๋ถ่า ตั้งอยู่บนเขาไป๋ถ่าซาน ฝั่งเหนือของแม่น้ำเหลือง ใกล้ๆกับสะพานเหล็กจงซาน ตำนานหนึ่งเล่าว่าสมัยก่อนองค์เจดีย์ดั้งเดิมสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระลามะทิเบตนิกายศากยะรูปหนึ่ง ที่กำลังเดินทางไปพบกับเจงกิสข่านจักรพรรดินักรบแห่งชาวมองโกล เกิดอาพาธและมรณภาพเสียก่อนที่จะไปถึงที่เมืองหลันโจว องค์เจดีย์เดิมนั้นไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว ที่เห็นในปัจจุบันเป็นการสร้างขึ้นใหม่ โดยเจ้าเมืองหลันโจว ช่วงสมัยราชวงศ์หมิง ศักราชจิ่งไท่ ประมาณปี ค.ศ.1450-1456 องค์เจดีย์มีสีขาว สูงเจ็ดชั้นมีแปดเหลี่ยม ฐานเจดีย์เป็นรูปทรงกลมแบบทิเบต

นำชมอนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง Huang He Mu Qing “หวงเหอหมู่ชิง” 黄河母亲 ผลงานของศิลปินหญิงชาวจีนชื่อ “เหอเอ้อ” ตั้งอยู่ช่วงกลางถนนปินเหอลู่ สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1986 ประติมากรรมนี้สลักจากหินแกรนิต มีความยาว 6 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และสูง 2.6 เมตร มีน้ำหนักกว่า 60 ตัน แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงนอนมองลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆด้วยแววตาที่สื่อถึงความรักความอบอุ่น รูปปั้นนี้เปรียบแม่น้ำหวงเหอ (ฮวงโห) เป็นเสมือนมารดาที่หล่อเลี้ยงลูกน้อย คือมวลประชาชาวจีนหลายร้อยล้านคนมายาวนานกว่า 4,000 ปี ถือว่าแม่น้ำหวงเหอเป็นต้นธารแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีน นับเนื่องมาแต่ปฐมกษัตริย์ของจีนในยุคตอนต้น

แล้วเดินทางสู่เมืองไป๋หยิน  BAIYUN白银市ประตูสู่ป่าหินแม่น้ำเหลือง (78 กม. / 1.20 ชั่วโมง)

ถึงเมืองไป๋หยิน นำท่านเข้าที่พัก

19.00 น.              รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ในเขตทะเลทราย พระอาทิตย์จะตกดินประมาณ 3-4 ทุ่ม เวลาเที่ยวจึงมีเต็มที่ในแต่ละวัน อาหารเที่ยงปกติรับประทานประมาณ บ่าย 2 โมง อาหารค่ำโดยปกติจะรับประทานประมาณ 2-3 ทุ่ม

ที่พัก ไป๋หยิน: Baiyin Hampton by Hilton 4 ดาว+หรือเทียบเท่า     

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เทศมณฑลจิงไถ 景泰县: Jǐngtài Xiàn (80 กม. / 1 ชั่วโมง) จิงไถเป็นเทศมณฑลทางตอนกลางของมณฑลกานซู มีพรมแดนติดกับมองโกเลียในทางทิศเหนือ อยู่ภายใต้การบริหารงานของเมืองไป่หยิน และตั้งอยู่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ 5,483 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากร ประมาณ 238,900 คน ณ ปี พ.ศ. 2562 จิงไถ แปลว่า "ความเจริญรุ่งเรือง ความสงบสุขของประเทศและประชาชน" พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาและเป็นภูเขา โดยมีระดับความสูงตั้งแต่ 1,276-3,321 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น เช่น ป่าหินแม่น้ำเหลือง และสถานที่อื่นๆ

ชมอุทยานป่าหินแม่น้ำฮวงโห หรือ ป่าหินแม่น้ำเหลือง Gansu Baiyin Jingtai Yellow River Stone Forest (景泰) 黄河石林อุทยานทางภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหลงวาน ในเขตจิงไถ เมืองไป๋หยิน เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกมากว่า 4,000 ล้านปี ครอบคลุมพื้นที่ 34 ตารางกิโลเมตร มีความสวยงามพอกับป่าหินแห่งยูนนาน ประกอบด้วยหินงอกทรายและเสาหินสูงประมาณ 100 เมตร และบางต้นมีความสูงถึงกว่า 200 เมตรหลากหลายขนาด, รูปทรงและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากน้ำและลมกัดเซาะมาเป็นเวลายาวนานทำให้ป่าหินดูน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้น

  • เปิดประสบการณ์ให้ท่านล่องแพหนังแกะในแม่น้ำฮวงโห แพพี้นบ้านแบบดั้งเดิมโดยเอาหนังแกะทั้งตัวมาเย็นเป็นถุงแล้วใส่ลมเข้าไปข้างใน ในสมัยโบราณชุมชนสองฝั่งแม่น้ำเหลือง (หวงเหอ) ใช้ถุงแกะหนุนอยู่ใต้แพ เดินทางล่อชึ้น-ลง และใช้ข้ามแม่น้ำแทนเรือ
  • นำท่านนั่งรถเทียมลา (คล้ายกับรถเทียมม้าแต่เปลี่ยนเป็นใช้ลาลากจูงแทน) ชมทัศนียภาพและถ่ายภาพในหุบเขาป่าหินอันงดงามตระการตา

14.00 น.          รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร แล้วเดินทางกลับหลันโจว (137 กม. / 2.30 ชั่วโมง)

นำชมสวนกังหันวิดน้ำโบราณ “สุ่ยเชอ” 水车 สองฟากฝั่งของหวงเหอในเขตเมืองหลันโจว มีกังหันวิดน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ตั้งเรียงรายอยู่ถึง 252 กังหัน จนหลันโจวได้สมญานาม “เมืองหลวงแห่งกังหันน้ำของจีน”

นำชมสะพานเหล็ก 铁桥 สะพานแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำเหลือง "หวงเหอตี้อี้เฉียว" 黄河第一桥ซึ่งออกแบบโดยวิศวะกรชาวเยอรมัน สะพานมีความยาว 233.33 เมตร กว้าง 7.5 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1907 ใช้งบประมาณเป็นเงินกว่าสามแสนตำลึง 

19.00 น.           รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษ My Hotpot       

ที่พัก หลันโจว: Yuluxe Lanzhou Hotel  4 ดาว+หรือเทียบเท่า                    

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

เดินทางสู่เขื่อนลิ่วเจียเสีย Liujiaxia Hydropower Station 劉家峽水電站เขื่อนชลประทานที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันตก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1964-1974 เป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ป้องกันน้ำท่วม จัดสรรน้ำเพื่อพื้นที่กสิกรรม ครอบคลุมบริเวณสามมณฑล คือ ชิงไห่ กานซู่ และส่านซี (98 กม. / 2.30-3 ชั่วโมง)

11.00 น.            รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

นำท่านล่องเรือแม่น้ำหวงเหอ (แม่น้ำเหลืองหรือแม่น้ำวิปโยค) โดยเรือเร็ว (รวมค่าเรือแล้ว) ชมทิวทัศน์สวยงามสองฟากฝั่ง

ขึ้นชมวัดปิ่งหลิงซื่อ Bingling Temple炳灵寺ตั้งอยู่บนภูเขาจีซือ ชมพระพุทธรูปแกะสลักจากหินที่อยู่ในถ้ำผาริมแม่น้ำทั้งหมดยาว 2 กม. มี 4 ชั้น สร้างในสมัยราชวงศ์ เป่ย เว่ย สุย ถัง จนถึงสมัยราชวงศ์หมิงและชิง รวม 34 ถ้ำ 149 กุฏิ พระพุทธรูปใหญ่น้อย 679 องค์ รูปปั้น 82 องค์ ภาพผนัง 900 ตารางเมตร องค์ใหญ่ที่สุดสูง 27 เมตร เล็กสุด 20 เซนติเมตร นับเป็นผลงานปฏิมากรรมสลักจากหินทรายที่งดงามเป็นเลิศช่วงศตวรรษที่ 5 และได้รับการเพิ่มเข้าไปในรายชื่อมรดกโลกร่วมกับโม่เกาคู เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2014

Bingling Temple Grottoes มีชื่อเสียงจากประติมากรรมหินหลายชิ้น และภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการยกย่องมายาวนาน มีประติมากรรมหินดินเผาที่ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ต่างๆ จึงมีรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังในยุคสิบหกรัฐ (ค.ศ. 304-439) สะท้อนถึงลักษณะทางสังคม ดนตรี การเต้นรำ และศิลปะการตกแต่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนในช่วงยุคสิบหกรัฐ

ถ้ำหมายเลข 169 เป็นถ้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) อยู่ห่างจากพื้นดิน 50 เมตร สูง 15 เมตร กว้าง 26.75 เมตร ลึก 19 เมตร ถือเป็นแก่นแท้ของวัดปิงหลิง

ถ้ำหมายเลข 126 ขุดในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ สูง 3 เมตร ลึก 2.9 เมตร เป็นถ้ำที่มีรูปปั้นส่วนใหญ่ มีจำนวน 112 รูป และจากบนลงล่าง ผนังทั้งหมดปกคลุมไปด้วยรูปปั้นบาสโซ-รีลีโว บนผนังหลักของถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่ง 2 องค์และพระโพธิสัตว์ 2 องค์ และรูปปั้นทั้งหมดในถ้ำแห่งนี้แกะสลักด้วยทักษะชั้นยอดตามสไตล์พุทธศาสนาแบบจีนทั่วไปมีลักษณะสง่างาม

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเซี่ยเหอ Xiahe County 夏河 (136 กม. / 3.30 ชั่วโมง) เป็นเทศมณฑลหนึ่งในจังหวัดปกครองตนเองทิเบต Gannan มณฑลกานซู ประเทศจีน มีพรมแดนติดกับมณฑลชิงไห่ทางทิศตะวันตก ชื่อซึ่งแปลว่า "แม่น้ำ Xia" หมายถึงแม่น้ำ Daxia ที่ไหลผ่านมณฑลฯ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8,037 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 80,500 คน ซึ่งเป็นชาวทิเบต 78% มีบรรยากาศทางวัฒนธรรมของชาวพุทธแบบทิเบตที่แข็งแกร่ง จึงได้ชื่อว่าเป็น "ทิเบตน้อย" สภาพอากาศหนาวเย็น เป็นที่ตั้งของวัดพุทธทิเบต Labrang ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดพุทธทิเบตที่ใหญ่ที่สุดนอกเขตปกครองตนเองทิเบต

เซี่ยเหอมีทุ่งหญ้ามากกว่า 7 ล้านหมู่ เทศมณฑลให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์ เซี่ยเหอเป็นที่รู้จักไม่เพียงแต่มีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้วย อาทิ Labrang Lamasery 拉卜楞寺 วัดพุทธแบบทิเบตอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี มีนักท่องเที่ยวจากจีนและทั่วโลกมาเยี่ยมชมบ่อยครั้ง เพื่อชมอาคารสไตล์สถาปัตยกรรมทิเบต รวมถึงชมของมีค่ามากมาย เช่น ภาพวาด Thangka ที่ประณีต พระพุทธรูปที่เหมือนจริง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ทุ่งหญ้าสังเกอ และถ้ำหินขาวคาร์สต์

20.00 น.           รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก เซี่ยเหอ: Jiu Sheng International Hotel 4 ดาวหรือเทียบเท่า หรือ Tianzhu International Hotel 4 ดาวหรือเทียบเท่า                     

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำชมอารามลาบรัง Labrang Monastery 拉卜楞寺ตั้งอยู่ในเทศมณฑลเซี่ยเหอ เขตปกครองตนเองทิเบตกานหนาน กานซู ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Daxia ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำเหลือง ในแคว้นอัมโดพื้นที่ทิเบตดั้งเดิม อารามลาบรังเป็นที่ตั้งของวัดที่มีพระสงฆ์จำนวนหลายพันรูปนอกเขตปกครองตนเองทิเบต ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ลาบรังเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในแคว้นอัมโด อารามแห่งนี้สร้างในปี 1709 โดยเชอปาคนแรก Jamyang Zhépa ซึ่งตรงกับปีที่ 48 ในรัชสมัยของ Kangxi แห่งราชวงศ์ชิง

อารามลาบรังตั้งอยู่ที่จุดตัดทางยุทธศาสตร์ของสองวัฒนธรรมหลักของเอเชีย ได้แก่ ทิเบตและมองโกเลีย และเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ทางพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง Labrang Monastery ยังคงรักษาระบบการสอนพุทธศาสนาแบบทิเบตที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2525 ลาบรังลามาเซรีได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติจีน

Labrang Monastery มีพื้นที่ 82,300 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องสวดมนต์ 6 ห้อง ห้องโถงพระพุทธรูป 84 ห้อง อาคารสไตล์ทิเบต 31 หลัง ลานพระพุทธเจ้า 30 แห่ง และห้องปฏิบัติธรรมมากกว่า 500 ห้อง เคยเป็นที่อาศัยของลามะมากกว่า 10,000 รูป อารามที่ใหญ่โตและตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงนี้ ให้บรรยากาศทางพุทธศาสนาแบบทิเบตที่เข้มแข็ง ปัจจุบันทางวัดมีการจัดพิธีใหญ่ปีละ 7 ครั้ง ในระหว่างพิธี พระภิกษุทุกรูปในวัด จะรวมตัวกันเพื่อสวดพระไตรปิฎก วันละหกครั้ง

12.00 น.           รับประทานอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคาร

บ่ายเดินทางต่อไปยังซีหนิง Xīníng 西宁เมืองเอกของมณฑลชิงไห่ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทิเบต-ชิงไห่ ทางตะวันตกของประเทศจีน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนที่ราบสูงทิเบต ที่มีความสูงเฉลี่ยกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีประชากรเบาบางเพียงประมาณ 5 ล้านคน ในตัวเมืองซีหนิง มีประชากรอยู่อาศัยเพียง 1 ล้านคน ภูมิประเทศเป็นภูเขาและที่ราบสูง เสน่ห์ของชิงไห่คือความรกร้างห่างไกลและความเป็นอยู่ของชนเผ่าเร่ร่อน

ซีหนิง เป็นศูนย์กลางการค้าตามเส้นทางสายไหมทางระเบียงเหอชีมานานกว่า 2,000 ปี และเป็นที่มั่นของราชวงศ์ฮั่น สุย ถัง และ ซ่ง เพื่อต่อต้านการโจมตีของชนเผ่าเร่ร่อนจากตะวันตก ซีหนิงเคยเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกานซู่ ในปี ค.ศ. 1928 ซีหนิงถูกแยกเปลี่ยนเป็นเมืองเอกของมณฑลชิงไห่

ซีหนิงถือเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาสำหรับชาวมุสลิมและชาวพุทธ เนื่องจากมีมัสยิดตงกวนและอารามคุมบุม Kumbum Champa Ling (วัดถาเอ่อร์) เมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาแม่น้ำหวงฉุ่ยและเนื่องจากความสูง ทำให้มีภูมิอากาศแบบกึ่งแห้งแล้งที่เย็นสบาย (ระยะทาง 238 กม. / 5 ชั่วโมง)

19.00 น.          รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษ This is Xining

ถนนโมเจีย ตั้งอยู่ในตัวเมืองซีหนิง ห่างจากมัสยิดตงกวน 1.5 กม. ถนนสายนี้เป็นถนนขายของว่างที่มีชื่อเสียง และมีอายุหลายร้อยปี เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะลิ้มลองอาหารท้องถิ่นหลากหลายชนิด ที่พัก ซีหนิง: Xining Sanyu Hotel 4 ดาว+หรือเทียบเท่า             

โปรดทราบ กรุณาแยกเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็กเพื่อค้างคืนที่ซีหนิง 1 คืน วันรุ่งขึ้นจะเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงท่านจะมีสัมภาระขึ้นรถไฟเพียงกระเป๋าเล็กๆใบเดียว ง่ายต่อการดูแลยกขึ้นลงด้วยตนเอง ส่วนกระเป๋าใบใหญ่ คืนนี้จะฝากใส่รถบัสคันเดิม เดินทางล่วงหน้าไปรอรับท่านที่จางเย่ ส่วนรถบัสที่จะใช้ทำทัวร์ในวันรุ่งขึ้น จะใช้รถบัสคันใหม่ซึ่งจะใช้ทำทัวร์ซีหนิงเพียงครึ่งวัน-และจบทริปเมื่อส่งคณะที่สถานีรถไฟเท่านั้น

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำท่านไปชมอารามคุมบุม Kumbum Champa Ling วัดถาเอ่อร์塔尔寺 Taer Temple (25 กม.จากตัวเมือง) อารามแบบทิเบตสร้างทับสถานที่เกิดของพระสังกัปปะ พระผู้ก่อตั้งนิกายหมวกเหลืองขึ้นในทิเบต วัดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1560 สมัยราชวงศ์หมิง เคยถูกทำลายในปี ค.ศ. 1980 ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมแต่ในภายหลังได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ใน มีพื้นที่รวม 10 เฮกเตอร์ มีห้องโถงใหญ่ 52 ห้อง ห้องพักสงฆ์ 9,300 ห้อง รวมพื้นที่ใช้สอย 450,000 ตารางเมตร ตัวอาคารก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมฮั่นผสมทิเบต วัดถาเอ่อร์ได้รับการยกย่องให้เป็น "สุดยอดพุทธศิลป์สามสาขา" คือ 1. จิตรกรรมฝาผนัง 2. การเย็บปักผ้าพระบถ ซึ่งเป็นภาพ "ถังข่า"ชนิดหนึ่ง และ 3. การปั้นและแกะสลักเนยจามรีเป็นรูปดอกไม้คล้ายพานบายศรีถวายเป็นพุทธบูชา หรือ "ตอร์มา" ซึ่งหากมีโอกาสไปชมแล้ว จะประทับใจในฝีมือละเอียดประณีต และสีสันอันสดใส แล้วเดินทางไปสถานีรถไฟความเร็วสูง

12:56 น.          โดยรถไฟความเร็วสูงขบวนที่ D2717 2nd Class นำท่านเดินทางสู่เมืองจางเย่ Zhangye 张掖

จางเย่ Zhangye เป็นเมืองค่ายทหารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเส้นทางสายไหม ก่อตั้งเมื่อ 121 ปีก่อนคริสตกาล เมืองจางเย่ Zhangye เดิมชื่อ Changyeh หรือที่รู้จักในชื่อ Kanchow เป็นเมืองระดับจังหวัดในมณฑลกานซู ตอนกลางในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพรมแดนติดกับมองโกเลียในทางทิศเหนือ และชิงไห่ทางทิศใต้ เขตศูนย์กลางคือ Ganzhou ซึ่งเดิมเป็นเมืองของ Western Xia และเป็นหนึ่งในด่านหน้า เป็นจุดยุทศาสตร์การทหารที่สำคัญที่สุดของจีนตะวันตก

บริการอาหารกล่องบนรถไฟ (รถไฟอาจมีการปรับขบวน/ปรับเวลา)

14:47 น.          ถึงสถานี Zhangye West – เปลี่ยนเป็นรถบัสคันเดิมที่มารอรับล่วงหน้า เดินทางต่อสู่ภูเขาสายรุ้ง

เข้าชมเขตภูมิทัศน์จางเย่ ฉีเหลียนซานตันเสียตี้เม่า หรือ ภูเขาสายรุ้ง (Zhangye Danxia Lanscape) จัดเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของจีนอันงดงามแปลกตา ตั้งอยู่ในเขตภูเขาฉีเหลียนซาน ห่างจากตัวเมืองจางเย่ 40 กม. ครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างขวางถึง 300 ตารางกิโลเมตร และตั้งอยู่บนระดับความสูง 2,000-3,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในทางธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า มีอายุมานานกว่า 2 ล้านปี ผ่านการถูกกัดกร่อนของสายลม แสงแดด และความแห้งแล้งของภูมิประเทศ จึงเผยให้เห็นถึงชั้นของแร่ธาตุใต้ดิน ที่บ้างเป็นริ้วเลื่อมลายหลากสีสันพาดผ่านทั้งเนินภูแลซับซ้อน บ้างเป็นหุบโตรกลึกชัน บ้างคล้ายดั่งปราสาทในดินแดนเทพนิยาย เกิดสีสันหลากสี เช่น ขาว เหลือง น้ำตาล เทา ส้ม ชมพู แดง ดูสวยงามน่าชม ทำให้เกิดจินตนาการอันหลากหลาย (รวมรถแบตตารี่)

20.00 น.          รับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคารในเมืองจางเย่

ที่พัก จางเย่ Zhangye Mingjiale International Hotel 4 ดาว+หรือเทียบเท่า

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำชมวัดต้าฝอซื่อ Dafo Temple 大佛寺เป็นวัดพุทธในเมืองจางเย่ มณฑลกานซู ประเทศจีน มีชื่อเสียงจากพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดมหึมา สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1100 ในสมัยเซี่ยตะวันตก มีผู้มาเยี่ยมชมมากมายหลายศตวรรษที่ผ่านมา เพื่อชมพระพุทธไสยาสน์卧佛寺ใน ร่มที่ยาวที่สุดในประเทศจีน (ยาว 34.5 เมตร, สูง 7.5 เมตร วัดระหว่างไหล่บน-ล่าง) วัดพระพุทธไสยาสน์ ชื่อปัจจุบันของ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราวต้นศตวรรษที่ 12 ระหว่างสมัยเซี่ยตะวันตก (ค.ศ. 1038–1227) ในปี 1028 ชาวทิเบต-พม่า Tangut ได้เข้ายึด Zhangye (Ganzhou Uyghur) ไม่กี่ปีต่อมาพวกเขาก่อตั้ง Western Xia และควบคุมพื้นที่บริเวณระเบียงเหอซี Hexi Corridor ทั้งหมด เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และประกาศอำนาจการยึดครองพื้นที่ Xia จึงได้สร้างวัดและสั่งให้แปลพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนา นำท่านชมเจดีย์ไม้โบราณ ย่ามู่ถะ สร้างสมัยราชวงศ์ถัง สูง 8 ชั้น 6 ชั้นแรกสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ส่วน 2 ชั้นบนสุดเป็นเครื่องไม้  

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โกบี ทะเลทรายปาเดนจารัน ในเขตปกครองตนเองชนชาติมองโกเลีย (135 กม. / 4.30 ชั่วโมง)

14.00 น.          รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง

The Badain Jaran Desert / Badan Jilin Desert ทะเลทรายปาเดนจารัน หรือ ทะเลทรายปาตานจี๋หลิน 巴丹吉林沙漠

ทะเลทรายปาเดนจารัน เป็นทะเลทรายที่สวยที่สุดในประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่มณฑลกานซู หนิงเซี่ย และมองโกเลียใน มีพื้นที่ 49,000 ตารางกิโลเมตร ตามขนาดถือเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับสามของจีน ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ทะเลทรายแห่งนี้มีเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก วัดจากฐานถึงยอดเขา บางแห่งมีความสูงถึงมากกว่า 500 เมตร โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร (ตึก The Empire State นิวยอร์ก มีความสูงรวม 443 เมตร)

ทะเลทรายปาเดนจารันยังมีทะเลสาบ ที่มีน้ำพุใต้ดินมากกว่า 100 แห่ง ที่ตั้งอยู่ระหว่างเนินทราย บางแห่งเป็นน้ำจืด ในขณะที่บางแห่งมีน้ำเค็มมาก ทะเลสาบเหล่านี้เป็นที่มาของชื่อทะเลทราย “ปาเดนจารัน” ซึ่งในภาษามองโกลแปลว่า "ทะเลสาบลึกลับ" ยังมีพื้นที่ทะเลทรายและทะเลสาบอีกประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตรที่มนุษย์ยังมิได้แตะต้อง เพราะว่าแห้งแล้งเกินกว่าจะจินตนาการได้ ปาเดนจารันมีทะเลสาบที่สำรวจแล้ว 113 แห่ง เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกน้ำหลายชนิด

16.00 น.                เดินทางถึงเมืองทะเลทรายปาเรนจารัน มองโกเลียใน นำท่านเข้าที่พักกระโจมนักท่องเที่ยว

20.00 น.                รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร เมนูพิเศษ รวมมิตรมองโกเลีย

ที่พัก Badain Jaran Desert: กระโจมนักท่องเที่ยว Mongolian Yurt มีห้องน้ำในตัว

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

นำท่านเที่ยวชมอุทยานทะเลทราย Badain Jaran Desert โดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD (1 คัน / 3-4 ท่าน) ท่องทะเลทรายอย่างสนุกสนาน ติ่นเต้น เร้าใจ มีรสชาด ถ่ายรูปเช็คอินแบบจี๊ดๆ

Yinderitu – น้ำพุวิเศษ Yinderitu Magic Spring เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม มีแนวปะการังขนาด 3 ตารางเมตร มีบ่อน้ำพุ 108 รู ที่ไหลออกมาทั้งกลางวันและกลางคืน น้ำแร่มีรสหวานและมีธาตุหลายชนิด คนในท้องถิ่นจึงเรียกน้ำพุแห่งนี้ว่า "น้ำพุมหัศจรรย์"

Bilutu Dune - เนินทราย "โชโมลังมา" เนินทรายบิลูตูเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก ด้วยระดับความสูง 1,609 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีระดับเนินทรายความสูงจากฐาน-ยอด ประมาณ 500 เมตร จึงถูกเรียกว่าเนินทราย "โชโมลังมา" เมื่อคุณอยู่บนยอดเนินทราย จะเห็นเนินทรายและทะเลสาบในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด เป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตา Bilutu ในภาษามองโกเลียแปลว่า “สถานที่มีหินลับมีด”

เส้นทางท่องเที่ยว Badain Jaran Desert ควรเดินทาง และท่องเที่ยวด้วย รถขับเคลื่อน 4 ล้อ

** ค่าบริการ รวมค่าเหมารถ 4WD ท่องทะเลทรายแล้ว **

12.00 น.           รับประทานอาหารกลางวันที่แค้มป์ ในทะเลทราย ใกล้วัดปาเดนจารัน

วัดปาเดนจารัน "วัดลึกลับในทะเลทราย" วัดปาดันจารันเป็นวัดพุทธแบบทิเบตเพียงแห่งเดียวในทะเลทรายปาเดนจารัน สร้างขึ้นในปีคริสตศักราช 1755 ในรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี วัดนี้มีขนาดครอบคลุมพื้นที่เพียง 273.7 เฮกตาร์ เป็นศาลาสไตล์จีนสองชั้น เป็นสถานที่สำคัญสำหรับให้ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อสักการะพระพุทธเจ้าและบูชาเทพเจ้าแห่งทะเลทรายปาเดนจารัน คนเลี้ยงสัตว์ชาวมองโกเลียในท้องถิ่น เรียกโอเอซิสแห่งทะเลทรายนี้ว่า "Sumin Jaran" ซึ่งแปลว่า "ทะเลสาบในแผ่นดินที่มีวัด" เพราะมีทะเลสาบขนาดใหญ่สองแห่งเชื่อมต่อกัน โดยมีเนินทรายตั้งอยู่ริมทะเลสาบ

Baoritaogaile – พื้นที่ทรายร้องเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพื้นที่ทรายร้องเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือที่เรียกว่า "อาณาจักรทรายร้องเพลง" เสียงทรายร้องเพลงเหมือนเสียงฟ้าร้องหรือเสียงคำรามของเครื่องบิน เสียงดังจนได้ยินได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร

15.00 น.              ออกจากพื้นที่ทะเลทราย เดินทางไปเจียยวี่กวาน (357 กม. / 5 ชั่วโมง) เพื่อชมกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตกบนเส้นทางสายไหม “ด่านเจียยวี่ (Jiayu Pass / 嘉峪關)” เป็นที่ตั้งของ “ป้อมปราการเจียยวี่กวน (Jiayuguan Fort)” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณแหล่งโบราณสถานเชิงวัฒนธรรมเจียยวี่กวน Jiayuguan Cultural Relics Scenic Area เมืองเจียยวี่กวน 嘉峪關市 มณฑลกานซู่甘肃

20.00 น.   ถึงเมืองเจียยวี่กวน รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร

ที่พัก เจียยวี่กวาน Jiayuguan Nuojin Hotel 4 ดาว+หรือเทียบเท่า

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ชมด่านเจียยวี่กวาน Jiayuguan Pass 嘉峪關 ด่านที่สูงตระหง่าน ปราการที่แข็งแรง และสำคัญที่สุดในภาคตะวันตก เป็นจุดเริ่มต้นของกำแพงเมืองจีนโบราณ ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644) เป็นโครงการป้องกันทางทหารที่สำคัญที่สุดในการปกป้องพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เนื่องจากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ณ จุดที่แคบที่สุดของส่วนตะวันตกของระเบียงเหอซี ซึ่งเป็นแนวป้องกันที่สำคัญตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ก่อนคริสตศักราช 202–220)

Jiayuguan Pass ยังทำหน้าที่เป็นจุดอ้างอิงสำคัญของเส้นทางสายไหมโบราณอีกด้วย นักเดินทางและพ่อค้าชาวต่างชาติมาจากยุโรป เอเชียกลาง ผ่าน Jiayuguan Pass เข้าสู่ดินแดนชั้นในของประเทศจีน ในขณะที่สินค้าของจีนถูกขนส่งไปขายยังเอเชียกลางและยุโรปด้วยเส้นทางนี้เป็นหลัก ก่อให้เกิดกิจการค้ากับต่างประเทศ และยังมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างศาสนา ศิลปะ และประเพณีอีกด้วย

เรื่องเล่ามา ตำนานชื่นชมช่างฝีมือโบราณใน Jiayuguan เมื่อสร้างด่านเจียหยี่กวานในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) เนื่องจากความลำบากในการขนส่งวัศดุสิ่งก่อสร้าง หัวหน้าคนงานที่ควบคุมงานสร้าง จำเป็นต้องคำนวณปริมาณวัสดุล่วงหน้า โดยได้รับความช่วยเหลือจากช่างฝีมือ เมื่อหัวหน้าคนงานปฏิบัติงานลุล่วงตามงานที่ได้รับมอบหมาย การสร้างกำแพงแล้วเสร็จ อัศจรรย์เมื่อปรากฎว่าวัศดุที่จัดเตรียมไว้เหลือเพียงอิฐเพียงก้อนเดียว! และอิฐก้อนสุดท้ายนี้ได้จัดแสดงไว้ที่ กำแพงป้อมปราการทางทิซตะวันตก มีนักท่องเที่ยวมาชมเป็นจำนวนมาก ต่างกล่าวชื่นชมยกย่องความชาญฉลาดและฝีมือของช่างจีนโบราณ

ชมป้อมปราการที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1372 แล้วเสร็จภายหลังสถาปนาราชวงศ์หมิง ชมลานจัตุรัสของป้อมปราการด้านในที่มีกำแพงรายล้อม ส่วนบนของกำแพงสูง 10 เมตร ยาว 640 เมตร เป็นที่ตั้งของหอระวังภัย ซึ่งสร้างขึ้นในปลายราชวงศ์หมิงถึงต้นราชวงศ์ชิง ด้านหนึ่งทอดไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้สู่เทือกเขาฉีเหลียนซาน และอีกด้านหนึ่งทอดไปทางทิศเหนือสู่เทือกเขาเป่ยซาน

ชมอนุสาวรีย์ด้านนอกของประตูตะวันตกสร้างขึ้นในราวปีที่ 14 ของจักรพรรดิเฉียนหลง มีคำจารึกว่า “ป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดในโลก” ชมกำแพงเมืองจีนด่านสุดท้าย “เสียนปี้ฉางเฉิง” ที่สร้างขึ้นตามยอดภูเขาสูงชัน (รวมค่ารถแบตตารี่) 

12.00 น.                รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

เดินทางเข้าสู่แนวเขตโกบี เทศมณฑลกวาโจว มณฑลกานซู่ แวะเช็คอินถ่ายรูปกับ The Son of The Earth บุตรแห่งโลก (274 กม. / 3.30 ชั่วโมง) ต้าตี้จือจื่อ ประติมากรรมเด็ก 3 มิติขนาดยักษ์ ทารกน้อยนอนหลับอย่างอ่อนโยนท่ามกลางเส้นขอบฟ้าที่เป็นผืนทราย ประติมากรรมนี้มีความยาว 15 เมตร สูง 4.3 เมตร กว้าง 9 เมตร เป็นงานศิลปะที่ซ่อนอยู่กลางทะเลทรายโกบีในเมืองตุนหวง ผลงานนี้สร้างสรรค์โดยศาสตราจารย์ตงซูปิง ผู้อำนวยการฝ่ายประติมากรรมแห่งมหาวิทยาลัยซิงหัว โดยมีความหวังว่ามนุษยชาติจะสามารถโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างกลมกลืน เช่น เดียวกับที่ทารกน้อยนอนหลับอย่างอ่อนโยนท่ามกลางเส้นขอบฟ้าที่เป็นผืนทราย

ออกเดินทางต่อไปตุนหวง Dunhuang 敦煌 เมืองระดับเทศมณฑล ในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นจุดแวะพักหลักบนเส้นทางสายไหมโบราณ คำว่า “ตุน” ในภาษาจีนมีความหมายว่า  ใหญ่  คำว่า “หวง” มีความหมายว่า  รุ่งโรจน์ เมืองตุนหวง เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ในประวัติศาสตร์ของจีน (122 กม. / 1.45 ชั่วโมง)

ตัวเมือง Dunhuang เป็นลักษณะโอเอซิสกลางทะเลทราย เคยเป็นศูนย์กลางนักเดินทางหลักในเส้นทางสายไหมโบราณ เส้นทางการคมนาคมสำคัญจากจีนไปยังเอเชียกลาง ยุโรป และแอฟริกา มีประติมากรรมและจิตรกรรมฝาผนังในถ้ำโมเกาและถ้ำยูหลิน นับเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า โดยฝีมือของนักประดิษฐ์นิรนาม ปัจจุบันผู้ที่หลงใหลสถาปัตยกรรมสวยงามและงานศิลปะแห่งพุทธศาสนาทั่วโลกปรารถนามาเยือน

20.00 น.                รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร         

กลางคืนอิสระให้ท่านเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน "ตุนหวงซาโจว"

ที่พัก ตุนหวง Dunhuang Dongting International Hotel 4 ดาว+หรือเทียบเท่า

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ชมถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก “โม่เกา” เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 495 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงาม มีพระพุทธรูปแกะสลัก และองค์เจ้าแม่กวนอิม ในคูหาต้นๆเป็นผลงานการบุกเบิกของพระสงฆ์เล่อจุนในปี ค.ศ. 366 ส่วนคูหาสุดท้ายขุดเมื่อยุคที่มองโกลมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจีนในปี ค.ศ. 1277 ดังนั้นประติมากรรมหรือจิตรกรรมที่ท่านจะได้ชมที่ถ้ำโมเกาแห่งนี้ เกิดจากความเพียรพยายามของจิตรกรและช่างหลากยุคหลายสมัย ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่นับเนื่องยาวนานเกือบ 1,000 ปี  นำชมภาพยนตร์ 3 มิติ แสดงที่มาของถ้ำโม่เกา (ค่าทัวร์รวม รถแตตารี่+ค่าเข้าชม+ค่าดูหนัง 3 มิติ)

13.00 น.           รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตุนหวง Dunhuang Museum 敦煌博物館  พิพิธภัณฑ์ตุนหวงสร้างขึ้นในปี 2011 โดยมีพื้นที่ 16,000 ตร.ม. รูปลักษณ์ของอาคาร รวมสถาปัตยกรรมผสมผสานสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น กำแพงเมืองจีน หอสัญญาณ และปราสาทโบราณ ก่อให้เกิดรูปแบบที่สวยงามเคร่งขรึม จัดแสดงวัตถุโบราณมากกว่า 10,000 ในเส้นสายประวัติศาสตร์ของตุนหวง ที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี รู้จักตุนหวงและเส้นทางสายไหมได้จากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการจำลองจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามในถ้ำโมเกาให้ชม รัฐบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในถ้ำโมเกาคู แต่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมชัดๆ และถ่ายรูปที่นี่แทนได้

ห้องนิทรรศการ 1 - ตุนหวง ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – คริสตศักราช 220) จานจำนวนมากและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ขุดพบ ความเจริญรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหมในสมัยราชวงศ์ฮั่นได้ถูกแสดงออกมา สามารถเพลิดเพลินกับฉากการค้าผ้าไหมอันงดงาม และเข้าใจพัฒนาการของการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในตุนหวงในสมัยราชวงศ์ฮั่น เป็นตัวแทนวิถีชีวิตของชาวตุนหวงในขณะนั้นอย่างแท้จริง และยังแสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนาเข้ามาสู่ตะวันออกได้อย่างไร

ห้องนิทรรศการ 2 - ตุนหวงใน Wei, Jin, ราชวงศ์ใต้และเหนือ (ค.ศ. 220 - 589) ราชวงศ์เว่ย จิน ราชวงศ์ใต้ และเหนือ เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่สำคัญของตุนหวง วัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองสะท้อนให้เห็นได้จากกระเบื้องที่ขุดพบ เครื่องใช้ของทหาร และสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน สิ่งที่ขุดพบในช่วงนี้มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เช่น โถใส่ศพที่ประณีตและมีเอกลักษณ์ เตาหัวไก่สีสันสดใส เครื่องหน้าไม้ทองสัมฤทธิ์ที่ใช้โดยเจ้าหน้าที่และทหารชายแดนโบราณ โกดังเครื่องปั้นดินเผาที่สะท้อนสภาพชีวิตจริงในสมัยโบราณ และผ้าไหมที่งดงาม

ห้องนิทรรศการ 3 - ตุนหวงในราชวงศ์สุยและถัง (ค.ศ. 581 - 907) ราชวงศ์ซุย (ค.ศ. 581 - 618) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 - 907) เป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของตุนหวง สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมถึงจุดสูงสุด ตุนหวงได้กลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญระหว่างจีนและชาติตะวันตก โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่ขุดพบ เช่น ลูกปัด วัสดุเว่ยฉี หยก เครื่องปั้นดินเผา และตุ๊กตาอูฐ แสดงให้เห็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ของตุนหวง ในฐานะเมืองธุรกิจที่สำคัญและตลาดการค้ากับต่างประเทศได้ครบถ้วน

ห้องนิทรรศการ 4 - ตุนหวงจากห้าราชวงศ์ถึงหมิง (ค.ศ. 907 - 1644) มุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเซี่ยตะวันตก (ค.ศ. 1038 - 1227) ซึ่งมีรูปแบบโดดเด่นหลังจากราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960 - 1279) ด้วยความเสื่อมโทรมของเส้นทางสายไหม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองของตุนหวงก็ถดถอยเช่นกัน แต่ในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271 - 1368) ตุนหวง ประตูสู่ภาคตะวันตกได้เปิดออกอีกครั้ง ที่นี่คุณสามารถดูสิ่งของบางอย่างในยุคนั้นได้ เช่น Hauberk และ ไก่กระเบื้องตัวผู้

หอนิทรรศการ 5 - ตุนหวง ในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644 - 1911) ห้องนี้เล่าเรื่องพัฒนาการของตุนหวงและการค้นพบถ้ำพระสูตรในถ้ำโมเกาในสมัยราชวงศ์ชิง มุ่งเน้นไปที่การรวบรวมคัมภีร์ตุนหวงเพื่อแสดงให้ผู้คนเห็นถึงเสน่ห์ทางศิลปะของการศึกษาตุนหวง

นำท่านสู่เนินทราย “หมิงซาซาน” เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาว 40 ก.ม. สูงประมาณ 250 เมตร ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ เมื่อท่านขึ้นถึงยอดเนินเขาทราย  ท่านสามารถไถลลื่น ลงมาสู่เชิงเขาด้านล่างอย่างสนุกสนาน หากโอกาสเหมาะท่านอาจได้ยินเสียงกลองรบ เสียงม้าร้อง และเสียงสู้รบ ตามตำนานเล่าว่า เคยมีกองทัพถูกพายุทรายพัดกระหน่ำและถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพอยู่ใต้ภูเขาทราย

สานฝันขี่อูฐท่องทะเลทราย จูงตามกันเป็นแถวไปตามสันทรายที่โค้งไปมา ภูเขาทรายดูเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ตัดกับฟ้าสวยสีครามใสที่ท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม (รวมค่ารถแบตตารี่ 1 เที่ยว รวมค่าขี่อูฐ 30 นาที และ รวมถุงเท้ากันทรายแล้ว)

นำท่านย่ำทะเลทรายไปชมสระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทราย มีความลึกเฉลี่ย 6 เมตรเท่านั้น

20.00 น.              รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนูพิเศษ ความลับทะเลทราย         

กลางคืนอิสระให้ท่านเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน "ตุนหวงซาโจว"

ที่พัก ตุนหวง Dunhuang Dongting International Hotel 4 ดาว+หรือเทียบเท่า

07.00 น.           รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

เดินทางสู่หย่าตัน นครแห่งสายลม อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติหย่าตัน 敦煌雅丹

หย่าตัน Yadan National Geologic Park Devil City ตั้งอยู่ห่างจากเมืองตุนหวงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 164 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 398 ตารางกิโลเมตร เป็นเขตลมแรงที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก พลังลมพัดกร่อนภูผาหินทรายเกิดเป็นโตรกผารูปร่างอัศจรรย์ ดูพิเศษยิ่งใหญ่อลังการ งดงามบนพื้นที่กว้างใหญ่ ของเขตทะเลทรายโกบี ดูเสมือนนครลึกลับกลางทะเลทราย

ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานการท่องเที่ยวของจีน ได้กำหนดให้อุทยานธรณีวิทยา Yadan อยู่ในพื้นที่ชมวิวระดับ 4A จากนั้นจึงกลายเป็นฐานวิทยาศาสตร์ ฐานการศึกษา และมรดกทางธรณีวิทยา เนื่องจากมีภูมิประเทศที่โดดเด่น ฉากภาพยนตร์และโฆษณาหลายเรื่องจึงถูกถ่ายทำที่นี่ ทิวทัศน์ทะเลทรายโกบีที่กว้างใหญ่ ผสมผสานกับภูมิประเทศอันมหัศจรรย์ของ Yardan ทำให้อุทยานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งการเผยแพร่ความรู้ทางธรณีวิทยา การสำรวจ และการท่องเที่ยว

อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติหย่าตัน เมื่อใช้จินตนาการ จะได้เห็นหินที่มีรูปร่างต่างๆ เป็นเอกลักษณ์ เช่น มองโกเลียเปา นกหิน นกยูงรำแพน และอื่นๆ อาจพบหินที่มีขนาดจิ๋วคล้ายกับสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น พระราชวังโปตาลาในทิเบต หอฟ้าในปักกิ่ง หรืออย่างอื่น

เมื่อรถจอดที่จุดแรก อาจสงสัยว่าเราหลุดโลกเข้ามาอยู่ที่ดาวดวงอื่น แม่นแล้ว!!! หินที่โดดเด่นที่สุดในที่นี้คือ A Golden Lion Greeting ผลงานจาการกัดเซาะของน้ำและแรงลมมาเป็นเวลายาวนาน จนในที่สุดมันก็กลายเป็นรูปร่างเหมือนสิงโต ที่ดักทักทายคนมาเยี่ยมเยือนจากระยะไกล

จุดที่สอง สฟิงซ์ เมื่อมองจากระยะไกลจะพบว่าหินก้อนนี้ มีลักษณะคล้ายสิงโตหมอบ และมีหน้าเหมือนมนุษย์จริงๆ

จุดที่สาม นกยูงรำแพน เกิดจากการแรงลมเหลาเสาหินจนกลายโครงสร้าง รูปร่างดูเหมือนนกยูงแพนหางเธอเชิด ดูเริด ดูภาคภูมิใจในความงามของเธอ

จุดที่สี่ Armada เป็นจุดสุดท้ายที่โครงสร้างดูเหมือนกองเรือลอยอยู่ในทะเลทรายอันไร้ขอบเขต ดูเหมือนทะเลอันยิ่งใหญ่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ประทับใจเป็นพิเศษให้โอกาสตัวเองเดินเข้าไปในกองเรือเหล่านี้ เพื่อชื่นชมผลงานอันแปลกประหลาดของธรรมชาติ

ขอบอก...คุณต้องเดินเข้าไป มันอลังมากๆ

12.00 น.              รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

นำชมซากกำแพงราชวงศ์ฮั่น Dunhuang Han Dynasty Great Wall กำแพงเมืองจีนห่งราชวงศ์ฮั่น สร้างขึ้นเมื่อ 1,300 ปีก่อน เป็นการวางระบบทางทหารเพื่อการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อนในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ก่อให้เกิดความสำเร็จในการปกป้องพื้นที่ชายแดน เพิ่มพื้นที่เพาะปลูก และสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ เพื่อเป็นการเปิดและพัฒนา "เส้นทางสายไหม" โบราณ

นำชมด่านประตูหยก 玉門關 YUMENGUAN Yumen Pass หรือ Jade Gate ถือเป็นช่องผ่านทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ในทางเดินทางไปสู่ประเทศตะวันตกในสมัยราชวงศ์ฮั่น ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นช่องทางนำเข้าหยกจากภูมิภาคตะวันตก ช่องเขายูเหมินเคยเป็นพรมแดนระหว่างจีนตอนกลาง และภูมิภาคตะวันตกเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว มีบทบาทสำคัญใน "เส้นทางสายไหม" เช่นเดียวกับที่ช่องหยางกวน (ด่านพระอาทิตย์) ปัจจุบันซากปรักหักพังได้รับการยอมรับว่าจะต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกบน "เส้นทางสายไหม"

18.00 น.              รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร ได้เวลาสมควร เดินทางไปสนามบิน

21.20 น.              โดยสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 3U6358 นำท่านเดินทางกลับนครเฉิงตู (สายการบิน FULL SERVICE บริการของว่าง เครื่องดื่มบนเครื่อง)

23.55 น.              เดินทางถึงสนามบินเทียนฟู่ นครเฉิงตู นำท่านเข้าพักที่โรงแรมใกล้เขตสนามบินใหม่

ที่พัก Tianfu Inernational Hotel หรือเทียบเท่า 4 ดาว

06.00 น.              รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

10.00 น.              โดยสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 3U3937 นำท่านเดินทางกลับประเทศไทย (สายการบิน FULL SERVICE บริการอาหาร เครื่องดื่มบนเครื่อง)

11.45 น.              เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

แผนที่

เงื่อนไข

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (Economy Class) แบบหมู่คณะ
  2. ค่ารถโค้ช ปรับอากาศ VIP นำเที่ยวตามรายการ
  3. ค่ารถไฟความเร็วสูง ซีหนิง-จางเย่ 2nd Class
  4. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า
  5. ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งที่ระบุตามรายการ 
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง+สุขภาพ วงเงินประกันท่านละ 2,000,000 บาท รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ (อายุ 75 ปี ขึ้นไป ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง วงเงินประกันท่านละ 1,000,000 บาท รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ฯ)
  8. น้ำสำหรับดื่มบนรถ ไม่จำกัดจำนวน
  9. ค่าน้ำหนักกระเป๋า (น้ำหนัก 23 กิโลกรัม)
  10. ค่าทัวร์ได้รวม ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น และค่าทิปคนขับรถท้องถิ่นแล้ว
  1. ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทาง, แจ้งเข้า-แจ้งออกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
  2. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือจากรายการทัวร์, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์ และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  4. ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  5. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี
  6. ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าขึ้น-ลงโรงแรมแต่ละแห่ง
  7. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ แล้วแต่ความพึงพอใจในคุณภาพการบริการ
  8. FREE VISA ไม่รวมค่าวีซ่าจีน
  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหายกรณีที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร, ภัยธรรมชาติ, ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหวโรคระบาดและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ฯลฯ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
  2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว หรือ ยกเลิกจากเหตุสุดวิสัยอาทิการล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร, ภัยธรรมชาติ, ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหว, โรคระบาดและเหตุสุดวิสัยต่างๆ ฯลฯ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทั้งนี้ทางบริษัทจะคำนึงถึง ผลประโยชน์และความปลอดภัยของทุกท่านเป็นสำคัญ
  3. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ
  5. ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของมีค่าส่วนตัวต่างๆของท่านเอง หากเกิดการสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่างๆระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวอันมีสาเหตุมาจากผู้เดินทาง ทางบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบทุกกรณี
  6. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหายกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้ เดินทางออก หรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมืองรวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือ เดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือ เนื่องจากเหตุผลหรือความผิดของตัวท่านเอง
  7. ในกรณีที่พาสสปอร์ตของท่านชำรุด หรือมีตราปั้มใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และสายการบินแจ้งว่าไม่สามารถใช้เดินทางได้ หรือเกิดจากเอกสารปลอม หรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินไม่ว่ากรณีใดๆ เนื่องจากทางบริษัทได้มีการชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว
  8. กรณีที่ทางลูกค้าใช้บริการของทางบริษัทฯ ไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวในบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ ซึ่งเกิดจากการตัดสินใจของทางลูกค้าเอง ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในการบริการนั้นๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศก่อนเดินทางแล้ว
  9. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการขายหรือไม่ขายเป็นรายกรณี เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์, เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ, ผู้ที่นั่งวิลแชร์ หรือบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ฯลฯ กรุณาแจ้งบริษัทฯเพื่อสอบถามและหาข้อสรุปร่วมกันเป็นรายกรณี
  10. ราคาทัวร์เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับต่างประเทศไปหมดก่อนกรุ๊ปเดินทางแล้วหากท่านไม่ได้ใช้บริการบางรายการหรือยกเลิกไม่สามารถเรียกร้องเงินคืนได้
  11. เนื่องจากเราเดินทางเป็นหมู่คณะ ทางบริษัทจึงคำนึงถึงประโยชน์ และความปลอดภัยของส่วนรวมเป็นสำคัญ
  12. ห้ามนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้าประเทศ หากฝ่าฝืน จะมีโทษตามกฎหมายของแต่ละประเทศ บางประเทศมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
  13. มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คําสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
96,900 บาท
รหัส 152-80098 ทัวร์จีน สายไหม 3 มณฑล: กานซู่-ชิงไห่-มองโกเลีย
ราคาเริ่มต้น 96,900 บาท
เดินทางช่วง ก.ย.67 - ต.ค.67
เดินทางโดย Sichuan Airlines (3U)
ดูเพิ่มเติม https://proudholiday.com/tour.php?tour_id=6856

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/067/152-80098.pdf

สนใจติดต่อ บริษัท พราวด์ ฮอลิเดย์ แอนด์ ทัวร์ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/11760
โทร 080-035-1888
LINE ID @proudholiday
อีเมล proudtogo.333@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
บริษัท พราวด์ ฮอลิเดย์ แอนด์ ทัวร์ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/11760

33/3 Soi Intrawat21 Bangramard Talingchan Bangkok Thailand 10170

9:30-18:00 จันทร์-เสาร์
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา